วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

การแต่งกายในแต่ละยุคของฝรั่งเศส


เริ่มที่ ฝรั่งเศส 

ฝรั่งเศสสมัยกลาง 









สมัยกลางอันนี้ได้รับอิทธิพลจากอิตาลี ยังไม่ค่อยหรูหรา-*-

เริ่มมีการใส่สุ่มในกระโปรง เริ่มมีการใช้น้ำหอม ( เพราะเสื้อใส่หลายชั้นไม่สะดวกในการอาบน้ำจึงต้องใช้นำหอมแทน)
สมัยราชวงศ์ The Valois 

พระเจ้าชาร์ลที่ 9 และพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 (1560-1574, 1574-1589)

สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 (1610-1643) 




หลุยส์ที่ 14 

มาดามปอมปาดัวร์ 




มาดาม ดูว์ บาร์รี่ (madame du barry) โสเภณีชั้นสูง ก่อนที่จะได้รับเป็นพระสนมในพระเจ้าหลุยส์ที่15
marie louise of savoy
สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ครองราชย์ต่อมาไม่นานก็ลง สำเร็จโทษโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ฉะนั้น การแต่งกายของสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จะมีการ เปลี่ยนแปลงเครื่องประกอบการแต่งกายเล็กน้อย ทรงผมของผู้ชายจะสวมวิกที่เรียกว่า Cadogan wig มีม้วนเป็นหลอดอยู่สองข้าง รูปทรงของหมวกและการผูกผ้าพันคอของผู้ชาย ส่วนของผู้หญิง รูปทรงกระโปรงยังคงบานในลักษณะวงกลมเช่นเดิม มีโครงในกระโปรงเรียกว่า Doble Panmiers ชุดก็ยังคงมีลูกไม้และริบบิ้น ตกแต่งเป็นผ้าต่วนไหมและกำมะหยี่ กระโปรงจะมีผ่าหน้าและยกหยัก รั้งด้านข้าง ทั้ง 2 ข้างขึ้น ไปพองอยู่ด้านข้าง 2 ข้าง
ต่อไปอลังการมากกกกกกก บุคคลในประวัติศาสตร์ก่อนการปฎิวัติฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยที่16 และพระนางมารี อองตัวเนตต์ ที่ดังไปทั่วโลก

ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 มีความสุรุ่ยสุร่าย หรูหรามาก ประกอบกับพระมเหสีคือ พระนางมารี่อองตัวเนตต์ ชอบการแต่งกาย ฉลองพระองค์ด้วยเสื้อ รัดรูป คอลึก กระโปรงพอง ด้านหลังด้วยการจับจีบเดรฟ มีโครงกระโปรงที่เรียกว่า สุ่มไก่ ทำด้วยโลหะสามารถกางและหุบได้ ทรงผมประดับด้วยไข่มุก ขนนก และดอกไม้

ผู้ชายจะสวมเสื้อคลุมยาวปิดสะโพก นุ่งกางเกงรัดขา ใส่ถุงเท้ายาว เสื้อชั้น ในเป็นเชิ้ต มี จีบระบายที่อกและแขน มีเสื้อตัวสั้น ทับก่อนใส่เสื้อคลุม


---------------------------------------------------------------------------------

ภาพการ์ตูนล้อเลียนการทำผมของสาวๆผู้มีอันจะกินในสมัยก่อนปฎิวัติฝรั่งเศส
หลังจากปฎิวัติฝรั่งเศส ราชวงศ์ขุนนาง รวมถึงพระมหากษัตริย์โดนโค่นล้มราชบังลังก์และสำเร็จโทษด้วยกิโยตินไปจนหมด แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงการแต่งกายใหม่ทั้งหมดเพราะ สมัยพระเจ้าหลุยที่16 เป็นการแต่งกายที่ฟุ่มเฟือยมากใครแต่งกายจะต้องถูกประหารด้วย เครื่องกิโยติน (น่ากลัวมากกกกกกกกกกก)

-----------------------------------------------------------------------
ยุคของนโปเลียน





สมัยฝรั่งเศสคอนซูเลท และเอ็มไพร์ 

The French Consulate and first Empire 1799-1815 

ในสมัยนี้ประเทศฝรั่งเศสจะตกอยู่ในการปกครองของจักรพรรดิ โปเลียน ซึ่งทำการปฏิวัติ มาจากคณะไดเรคโตรี่

เครื่องแต่งกายจะเหมือนกับสมัยของ Directories แต่จะเรียกทรงเอ็มไพร์ หรือเรียกอีก อย่างหนึ่งว่า คลาสสิเคอร์ สไตล์ “Classical Style” มีลักษณะเหมือนกับกรีกและโรมัน คือ ลักษณะชุดกระโปรงจะตรงลงไประดับของเอวอยู่ใต้อก

เครื่องแต่งกายชายเริ่มจะเป็นปัจจุบันมากขึ้น เริ่มนุ่งกางเกงทรงใหม่ ๆ เริ่มใช้ผ้าพันคอ และออกแบบเสื้อสูทแบบต่าง ๆ มีทั้งแบบ Claw hammer taill เป็นเสื้อสูทที่ข้างหน้าสั้น แค่เอว ข้างหลังเป็นหางยาวคลุมสะโพกมีแหวกตรงกลาง และแบบเต็มทั้งตัว

ในสมัยนี้จะมีเสื้อยกทรงตัวแรกทำด้วยผ้ามัสลิน เรียก แบนเดิน “Bandean” ซึ่งต่อมา วิวัฒนาการเป็นเสื้อยกทรง

สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 (1815-1824) 

จะเป็นสมัยที่ฝรั่งเศสกลับมาหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างเดิมอีก โดยนำเอาการแต่งกายของ สมัยพระนางแมรี่ อังตัวเนต และพระนางโยเซฟฟิน ซึ่งเป็นมเหสีของนโปเลียนมาผสมผสานกัน มีการตกแต่งหรูหราเพิ่มขึ้น แต่พอควร ให้ความรู้สึกละเอียดอ่อน เอวซึ่งเคยสูงก็กลับมาอยู่ในระดับ ปกติและรัดรูป กระโปรงบานออก แขนใหญ่ พองฟู ติดลูกไม้หรือโบว์ที่ขอบแขนเสื้อ แขนเสื้อทรง ขาหมูแฮม ผมเป็นลอนที่ท้ายทอยและหน้าผาก










สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (1942) 

เป็นภาวะที่ฝรั่งเศสขาดแคลนเครื่องแต่งกาย สินค้าผ้าขาดแคลน การแต่งกายของผู้หญิง ต้องมีการจำกัดเรื่องผ้า เป็นกระโปรงทรงตรง ๆ แคบ ผ่าข้างหลัง หรือหน้าเพื่อให้เดินสะดวก ชายเสื้อกระโปรงพับได้ไม่เกิน 1 นิ้ว
นี่ขนาดคลาดแคลน นะเนี่ย 



ช่วงแรกๆ ฮิตกระโปรงทรงดินสอแคบเข้ารูป    แบบภาพด้านบน


ยุค '50s มีสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือ  กระโปรงบ๊านบาน ความยาวคลุมเข่า ข้างในกระโปรงเสริมผ้าตาข่ายหลายๆ ชั้น  เน้นทรวดทรงองค์เอว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น