วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557


กาแฟลาว

“โบโลเวนไม่ใช่เทือกเขาที่ราบสูงของประเทศไหนหรอกค่ะ อยู่ในลาวนี่แหละ ที่เมืองปากซอง แขวงจำปาศักดิ์ สปป.ลาว แต่ที่มีชื่อเป็นสำเนียงฝรั่งนั่นมาจากพื้นที่ละแวกนี้เดิมทีเป็นถิ่นที่อยู่ของชนเผ่าพื้นเมืองที่เรียกตัวเองว่า บอละเวน เมื่อมาถึงยุคล่าอาณานิคม ฝรั่งเศสยึดลาวเป็นเมืองขึ้น และชาวฝรั่งเศสที่มาตั้งรกรากได้เรียกชื่อชนเผ่าพื้นเมืองเพี้ยนไปว่า โบโลเวน พร้อมเรียกป่าในที่ราบสูงซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบอละเวนว่าเป็นที่ราบสูงโบโลเวนไปด้วย”
ผลผลิตเมล็ดกาแฟ
และเหตุที่ฝรั่งเศสสนใจพื้นที่ป่าของชาวบอละเวนมากเป็นพิเศษ นางยุวดี วรวัฒน์ ผจก.บริษัท ซำบายดี จำกัด ตัวแทนจำหน่าย “ดาวคอฟฟี่” ในประเทศไทย อธิบายขยายความให้ฟังว่า เนื่องจากภูมิอากาศที่นี้อากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิไม่เคยร้อนเกินกว่า 26 ํC เลย จึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวฝรั่งเศสที่มาจากเมืองหนาว...ด้วยเป็นที่ราบสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 เมตร
และยังเป็นเขตภูเขาไฟเก่า คุณภาพของดินจึงอุดมไปด้วยแร่ธาตุเหมาะแก่การเพาะปลูก โดยเฉพาะกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ที่ต้องปลูกในระดับความสูงไม่น้อยกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีความลาดชันไม่เกิน 30 องศา...พื้นที่อย่างนี้ เมืองไทยหาได้น้อยมาก แม้จะมีพื้นที่สูงอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่กลับมีความลาดชันสูง เทียบไม่ได้กับเทือกเขาโบโลเวนของลาว
เทือกเขาโบโลเวน ที่ผลิตกาแฟ
“ชาวลาวได้เริ่มมีการนำกาแฟพันธุ์อาราบิก้า 100% มาปลูกในพื้นที่นี้เมื่อปี 2533 พร้อมนำเทคนิคความรู้เรื่องกาแฟทั้งหมดมาจากฝรั่งเศส จุดสำคัญที่ส่งผลให้เมล็ดกาแฟมีรสชาติดี มาจากการปลูกแบบอินทรีย์ จะไม่มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชใดๆเลย แม้กระทั่งปุ๋ยเคมีก็ไม่ให้ใส่ เพราะเกรงว่าสารเคมีจะมาทำให้กลิ่นและรสของกาแฟธรรมชาติจะเพี้ยนไป การเก็บเมล็ดกาแฟก็เช่นกันจะทำในช่วงที่ผลสุกมีสีแดงเหมือนผลเชอรี่ ห้ามไม่ให้รูดเมล็ดออกจากกิ่ง แต่จะใช้มือเด็ดทีละเมล็ด นี่เป็นเคล็ดลับเฉพาะของเรา เพราะจะทำให้เมล็ดกาแฟไม่แตก กลิ่นสารความหอมของกาแฟจะได้ไม่ระเหยหายออกไป จนทำให้สูญเสียรสชาติกาแฟแท้ๆ”
และเมื่อนำไปทำการคัดแยกและล้างก่อนเข้าสู่โรงงาน จะมีการนำเมล็ดกาแฟมาตากในลานซีเมนต์ขนาดกว้างใหญ่ถึง 250 ไร่ แล้วถึงเข้าสู่กระบวนการผลิตมาตรฐาน ISO 22000.2005 ทุกขั้นตอนทำกันอย่างพิถีพิถัน...ในขณะที่เมื่อหันมามองการผลิตเมล็ดกาแฟในบ้านเรา มีทำกันอย่างนี้บ้างไหม
นำเมล็ดกาแฟมาตากในลานซีเมนต์ขนาดกว้างใหญ่ถึง 250 ไร่
เทียบกันแล้ว ไม่ต่างกับเด็กเล่นขายของ เห็นเขาทำได้ก็จะทำบ้าง ทำกันมั่วๆ แบบแห่ตามกัน แต่ดันทะลึ่งฝันว่าจะขายได้ราคาดี
ถ้ายังเป็นอย่างนี้ เปิดเออีซี...คงได้แค่ฝันลมๆ แล้งๆ กันต่อไป.