ฝรั่งเศสไม่นิยมการให้ทิป
ถ้าคนไหนที่คิดจะไปเรียนที่ฝรั่งเศสและทำงานพิเศษโดยหวังจะได้ทิปเยอะๆ นั้น ขอบอกว่าเป็นเรื่องยากเลยค่ะ เพราะที่ฝรั่งเศสเค้าไม่นิยมให้ทิปกัน (บางคนมองว่าเป็นเรื่องแปลกด้วยซ้ำ) ค่าบริการต่างๆ ถูกรวมไว้ในบิลแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้ทิปเพิ่ม แต่ถ้าพนักงานบริการดีมากๆๆๆๆๆ อาจจะได้ทิปเล็กๆ น้อยๆ ซัก 1-2 ยูโรก็ได้
ต้นกำเนิดของเครป
"เครป" เป็นของหวาน เมนูโปรดของน้องๆ หลายคน แต่รู้มั้ยว่า ต้นกำเนิดที่แท้จริงของเครปเกิดที่ฝรั่งเศสนี่แหละค่ะ หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่าเครปมีต้นกำเนิดที่ญี่ปุ่น เพราะตามร้านต่างๆ มักติดป้ายว่า "เครปญี่ปุ่น" โดยเมืองที่เป็นต้นกำเนิดแบบอิริจินัลแท้ๆ อยู่ที่แคว้นชื่อ"Bretagne" เป็นแคว้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส โดยในอดีตนั้น คนฝรั่งเศสจะนิยมทานเครปกับน้ำผลไม้ค่ะ แต่ปัจจุบันนิยมทานกับผลไม้สดไม่ก็ช็อกโกแล็ต
ร้านขายยาที่ขาย "ยา"
ถ้าให้ลองนึกภาพร้านขายยาในปัจจุบัน นอกจากจะขายยาแล้ว แทบทุกร้านก็ยังมีขายเครื่องดื่ม หรือบางร้านใหญ่ๆ ก็มีเครื่องสำอาง มาสคาร่า หรือของใช้อื่นๆ ทิชชู่ หวี กระจก สารพัดจะหามาขาย แต่ร้านขายยาในฝรั่งเศสนั้นจะขายเฉพาะ "ยา" เท่านั้นค่ะ ซึ่งร้านขายยานั้นสามารถหาได้ง่ายตามมุมถนนทั่วไป เพราะคนฝรั่งเศสเค้าจริงจังเรื่องสุขภาพและการใช้ยามากกกก เคยมีการสำรวจพบว่า คนฝรั่งเศสเป็นชาติที่เสียเงินใช้จ่ายในการซื้อยามากที่สุดในยุโรป
จริงจังเรื่องสุขภาพ
องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยจัดอันดับให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีระบบดูแลสุขภาพประชาชนที่เยี่ยมที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง โดยวัดได้จากการที่ฝรั่งเศสมีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายที่ต่ำมาก สาเหตุก็มาจากว่า ทุกคนมีประกันสุขภาพ และประกันสุขภาพนี้จะจ่ายทดแทนให้ได้หมดแทบไม่มีข้อยกเว้น ป่วยเมื่อไหร่ประกันจ่ายให้หมด 100% หรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่เข้าไปในอาศัยในประเทศฝรั่งเศสก็ต้องมีประกันสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยราคาของประกันสุขภาพอยู่ที่ประมาณ 200-500 ยูโรหรือประมาณ 8,000-20,000 บาทต่อปีค่ะ
จำนวนนักท่องเที่ยว
ประเทศฝรั่งเศสมีประชากรจำนวน 64 ล้านคนซึ่งไม่แตกต่างจากประเทศไทยบ้านเรานัก แต่!!!!!! ประเทศฝรั่งเศสมีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละ 70 กว่าล้านคน ถือว่ามากกว่าจำนวนพลเมืองในประเทศด้วยซ้ำ สุดยอดเลยเนาะ นอกจากนี้ ยังถือเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดของปี 2011 (ใน 10 อันดับมีเอเชีย 3 ประเทศคือ จีน ตุรกี และมาเลเซีย)
ภาษีโทรทัศน์
น่าแปลกดีเหมือนกันที่ใครมีโทรทัศน์ ต้องเสียภาษีโทรทัศน์ด้วย!! โดยตกประมาณ 200 ยูโรหรือ 8,000 บาทต่อปี ภาษีเหล่านี้ทางรัฐบาลจะนำไปปรับปรุงรายการโทรทัศน์ให้มีคุณภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือมีโฆษณาคั่นรายการน้อยมากกกกค่ะ เพราะรัฐบาลฝรั่งเศสไม่ต้องการให้ประชาชนถูกโฆษณาเหล่านั้นมอมเมา (พูดง่ายๆ คือปกติรายการทีวีต้องมีโฆษณาเข้า ถึงจะมีรายได้ แต่รายการทีวีของฝรั่งเศสไม่มีรายได้จากโฆษณา เลยต้องเก็บเป็นภาษีแทน) แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่ฝรั่งเศสนะคะที่มีการเก็บภาษีโทรทัศน์ เพราะประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น เยอรมัน เดนมาร์ค ออสเตรีย เค้าก็มีเก็บเหมือนกันแถมแพงกว่าที่ฝรั่งเศสด้วย
ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า
เราคงคุ้นเคยกับประโยคที่ว่า The customer is always right. คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงลูกค้าก็คือพระเจ้าและถูกอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่ที่ฝรั่งเศสค่ะ ! ว่ากันว่าวิถีการให้บริการของคนที่นั่นค่อนข้างแข็งๆ ทื่อๆ ไม่ค่อยแคร์ลูกค้า เคยมีคนกล่าวไว้ว่า เวลาเปิดร้านค้าในฝรั่งเศสขึ้นอยู่กับอารมณ์คนขาย ไม่ได้จะแคร์ลูกค้า 555
เจ้าแห่งรางวัลโนเบล
ชาวฝรั่งเศสเป็นชาติที่โรแมนติก ดังนั้นที่นี่จึงเป็นบ้านเกิดของกวีและนักเขียนชื่อดังมากมาย ที่สำคัญ ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาวรรณกรรมมากที่สุดของโลกด้วยค่ะ โดยนักเขียนที่เคยได้รับรางวัลนี้ก็เช่น J. M. G. Le Clézio หรือ ฌ็อง มารี กุสตาฟว์ เลอ เกลซีโย เป็นนักเขียนและนักเดินทางรอบโลกชาวฝรั่งเศส มีผลงานเขียนกว่า 40 เรื่อง จนได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมเมื่อปี 2008 ที่ผ่านมาค่ะ